วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Registry Recovery -V1.1

วิธีการใช้งาน NOD32 Registry Recovery -V1.1

NOD32 Registry Recovery-V1.1 มีไว้สำหรับแก้อาการผิดปกติของเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งเกิดจากไวรัสต่างๆ ให้กลับมาเป็นปกติ

Download File
http://www.ziddu.com/download/4693196/NOD32RegistryRecovery-V1.1.exe.html

วิธีใช้งาน

1. เมื่อคุณ download ลงมาแล้วจะได้รับไฟล์ NOD32 Registry Recovery-V1.1

2. ให้คุณทำการ double click ที่ไฟล์ NOD32 Registry Recovery-V1.1 เพื่อเริ่มการทำงานของโปรแกรม

3. ให้คุณอ่านและทำความเข้าใจ License agreement แล้วกด I Agree

4. เมื่อถึงหน้าต่าง Choose Component จะมี 21 หัวข้อให้คุณเลือกคือ

- Kill process wscript หยุดการทำงานของโพรเซส wscript เพื่อหยุดการทำงานของไวรัสประเภทสคริปส์

- Enable Folder Options เปิดการใช้งาน Folder Options

- Show Hidden Files แสดงไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้

- Show File Extension แสดงนามสกุลของไฟล์

- Enable Run Window เปิดการใช้งานฟังก์ชั่น Run

- Enable Search เปิดการใช้งานฟังก์ชั่นการค้นหา

- Enable Right-click เปิดการใช้งานเมนูคลิ๊กเม๊าส์ขวา

- Enable Registry Editor เปิดการใช้งาน regedit

- Enable Task Manager เปิดการใช้งาน Task Manager

- Enable Command Prompt เปิดการใช้งาน cmd

- Enable Control Panel เปิดการใช้งาน Control Panel

- Enable System Restore Tab แสดง Tab System Restore ใน System Properties

- Enable Windows Firewall เปิดการใช้งานฟังก์ชั่น Windows Firewall ให้สามารถเปิดหรือปิดตามต้องการได้ เนื่องจากอาจถูกปิดฟังก์ชั่นโดยมัลแวร์ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้

- Enable Automatic Updates เปิดการใช้งานอัพเดทวินโดวส์แบบอัตโนมัติ

- Enable Security Center เปิดการใช้งานฟังก์ชั่น Security Center

- Set Blank Home page ตั้งค่าหน้าหลักของ Internet Browser ให้เป็น blank

- Reset IE Window Title ลบข้อมูลบนไตเติ้ลบาร์ของเว็ปเบราเซอร์

- Disable Autorun ปิดการใช้งาน Autorun ของ Windows

- Reset Winlogon ตั้งค่าของ Winlogon ใหม่ เนื่องจากอาจมีมัลแวร์บางชนิดเริ่มการใช้การเมื่อเริ่มเข้าใช้งานวินโดวส์

- Remove autorun.inf กำจัดตัว Autorun ทุกๆไดร์ฟออกไป

- Scan and Clean with NOD32 ทำการสแกนเครื่องด้วย NOD32

5. จากข้อ 4. แนะนำให้คุณเลือกทั้ง 21 ข้อครับแต่ถ้าคุณไม่มีโปรแกรม NOD32 ให้เลือกข้อ 1-20 แล้วกด Fix Now

6. จากนั้นให้คุณทำการ restart เครื่องของคุณ

* ขอบคุณข้อมูลจาก www.nod32th.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น